admin
Forum Replies Created
-
AuthorPosts
-
adminKeymaster
ครั้นถึงวันเพ็ญเดือนอ้าย เมื่อตบแต่งแพเสร็จแล้ว พาหิรเสนาก็พาเหล่าบริวารเข้าไปในวังเพื่อจะเอาเจ้าสุวรรณมุขกุมารไปลอยแพ องค์เทวินทร ราชกุมารองค์ที่ ๖ ก็ชักพระขรรค์จะเข้าปกป้องพระอนุชา พระราชบุตรทั้ง ๕ จึงเข้าห้ามไว้ ว่าถ้าเราฆ่าเสนาผู้นี้เสีย พระชนกก็จะประหารพวกเราแน่ ขอให้เป็นไปตามบุญตามกรรมเถิด จึงได้แต่พากันกรรแสงพร้อมกับคนทั้งวัง
ครั้นพระนางอุรสาเทีวีเก็บเครื่องทรงของพระโอรสน้อยครบแล้ว ก็อุ้มเจ้าสุวรรณทวารมุขตรัสอำลาโอรสทั้ง ๖ ซึ่งกรรแสงตามไปจนถึงท่าน้ำสมุทรหลวง ลงแพลอยน้ำไป พระนางอุรสาเทวีตั้งสัตยาธิษฐานต่อเทพดา ครุฑ และนาค ขอเอาเป็นที่พึ่ง
ด้วยเดชแห่งคำสัตยาธิษฐานและเดชกุศลของเจ้าสุวรรณทวารมุขกุมาร ก็ดังสนั่นไปถึงเทพดาที่รักษาแม่น้ำและนาคน้ำ ต่างพากันมารักษาแพมิให้เป็นอันตราย และยังมีพญานาคตัวหนึ่งนำเอาแก้วทับทิม มีค่าเป็นอเนกแต่เมืองนาคมาถวายเจ้าสุวรรณทวารมุขกุมาร แพก็ลอยไปโดยสวัสดีฝ่ายชาวเมืองโพธสารหลวง ต่างร่ำไห้ด้วยความสงสารพระมารดาและกุมาร พูดกันว่า พระยาเจ้านี้เป็นใบ้ไร้ปัญญา มาเชื่อฟังพาหิรเสนาผู้ใจบาป ต่อไปบ้านเมืองจะหม่นหมองเป็นแน่แท้ ต่างร้องไห้ซบเซากันทั้งเมือง ช้างม้าวัวควายที่กินหญ้าก็มิได้โบกหูแกว่งหาง ฟ้าฝนก็ไม่ตก บังเกิดความแห้งแล้ง พืชพรรณที่ปลูกไว้ก็เหี่ยวแห้งตายไป แม้แต่หางช่อหางธงก็มิได้สะบัด ส่วนองค์อินทปฐมก็สำนึกพระองค์ว่าทำผิดมหันต์ไปแล้ว ก็ได้แต่ซบเซามิได้ตรัสกับผู้ใดแม้แต่คนเดียว
ฝ่ายอยะมหาเสนาบดี ผู้เป็นบิดาของพระนางอุรสาเทวี ที่ลาออกจากราชการในวัยชรา พาคนออกไปตั้งบ้านเรือนอยู่ในที่สงบเหนือน้ำขึ้นไปจากเมืองโพธิสารหลวงได้ ๖ ปีแล้ว เกิดความคิดถึงลูกสาวและเมืองเก่า จึงล่องเรือลงมาเยี่ยม เมื่อได้ทราบข่าวว่าลูกสาวและหลานถูกลอยแพไปแล้ว ก็เข้าไปเฝ้าองค์อินทปฐม ทูลว่าทรงกระทำกรรมอันไม่ควรแท้ แต่องค์อินทปฐมไม่ได้โต้ตอบประการใด จึงรีบกลับไปบ้านเมืองตน ครั้นกลับไปถึงก็ให้บริวารตัดไม้สักในป่ามาทำเสาโคมลงรักปิดทองไว้ริมน้ำ พอวันเพ็ญเดือน ๖ ก็ตั้งพิธีอธิษฐาน ด้วยเดชะที่ได้การทำการบูชาพระรัตนตรัย ขอจุ่งให้ได้เห็นพระพักตร์เจ้าสุวรรณทวารมุขกุมารหลานรัก ผู้ซึ่งหาโทษมิได้ ขอจุ่งให้แพมณฑปของเจ้ากุมารลอยทวนน้ำขึ้นมาสู่เสาโคมทองของข้าพเจ้าด้วยเถิด
ด้วยเดชสัตยาธิษฐานนี้ ก็สนั่นไปถึงเทพดา ครุฑ และนาค ต่างมาพร้อมกันเป็นเอกฉันทสามัคคี กระทำให้เกิดเป็นลมใหญ่ พัดแพมณฑปของเจ้าสุวรรณทวารมุขกุมารกับมารดาให้ลอยทวนน้ำ ผ่านท่าเมืองโพธิสารหลวงขึ้นไปจนถึงเสาโคมทองของอยะเสนาธิบดี ในคืนเดือน ๘ ขึ้น ๑๔ ค่ำ คนทั้งหลายก็ได้ยินเสียงดนตรีฆ้องกลองที่เทพดาและนาคบูชาเจ้าสุวรรณมุขกุมาตลอดทั้งคืน เมื่ออยะเสนาธิบดีวิ่งไปที่แพ ก็ได้เห็นพระนางอุรสาเทวีบรรทมอยู่กับพระกุมาร มีรัตนกัมพลที่พญานาคเอามาถวายวางอยู่
อยะมหาเสนาธิบดีได้ให้บ่าวไพร่สร้างหออุทุมพรเป็นที่ประทับของพระกุมารและพระมารดา พร้อมกับให้นายสุวรรณการมาตีอ่างทองคำลึกเพียงบั้นพระองค์ของเจ้าสุวรรณทวารมุข เป็นที่สรงสนานด้วยมุรธาภิเษก น้อมถวายบ้านเมืองทั้งสิ้นแด่นัดดา มนุษย์และเทพดาก็ชื่นชมยินดี โปรยห่าฝนทิพย์ลงมาสรง บ้านเมืองก็ชุ่มเย็นเป็นสุขสำราญ ข้าวกล้าในไร่นาก็บริบูรณ์ ได้ชื่อว่า สุวรรณโคมประเทศ หรือ เมืองสุวรรณโคม แต่นั้นมาเมื่อเรื่องนี้เลื่องลือไปถึงเมืองโพธิสารที่ฝนไม่ตกเลยสักครั้ง เกิดอดข้าวอดน้ำกัน ชาวเมืองโพธิสารจึงพากันอพยพไปอยู่เมืองสุวรรณโคมคำกันไม่ขาดสาย ประมาณวันละพันสองพันครัวมิได้ขาด ตลอดเวลา ๓ ปีมีคนมากกว่าแสนครัวเรือน
มีกษัตริย์ปกครองเมืองสุวรรณโคมคำต่อจากเจ้าสุวรรณทวารมุขมาอีกหลายพระองค์ แต่แล้วเมืองสุวรรณโคมคำก็หนีไม่พ้นความเป็นอนิจจังของโลก พงศาวดารกล่าวว่าภายหลังมีเชื้อสายของพาหิรเสนาเข้ามาปกครอง กลายเป็นเมืองอันธพาลไปอีก ไปมีเรื่องกับ ๓ ธิดาของพญานาค ทำให้บิดาของนางโกรธแค้น จึงเรียกเอาบริวารของตนประมาณได้แสนโกฏิ ขึ้นไปขุดฝั่งแม่น้ำให้ลัดไปทางตะวันออกของเมืองสุวรรณโคมคำ ทำให้เมืองพังทลายไปทันทีแสดงว่าแม่น้ำโขงได้เซาะตลิ่งริมฝั่งด้านประเทศลาวจนเมืองสุวรรณโคมคำทลายลงไปในสายน้ำ
ตำนานเก่าๆก็มักจะมีเรื่องอภินิหารต่างๆเข้ามาผสมอยู่มาก และที่ขาดไม่ได้ของทุกประเทศในย่านนี้รวมทั้งไทยเราด้วย ก็คือ พญานาค นักประวัติศาสตร์ยังศึกษาในเรื่องที่คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเหล่านี้ เพราะได้ห่อหุ้มความเป็นจริงที่พอจะค้นหาเรื่องราวของประวัติศาสตร์ได้ ขณะนี้ สปปป.ลาว ก็กำลังปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่บ้านดอนหาด เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งของเมืองสุวรรณโคมคำ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทางภาคเหนือของลาวต่อไป
- This reply was modified 6 months, 1 week ago by admin.
-
AuthorPosts